คลังสินค้าทัณฑ์บน และ เขตปลอดอากร

 

คลังสินค้าทัณฑ์บน

คือ พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนตามกฏหมายว่าด้วยศุลกากรเพื่อใช้สำหรับเก็บของ หรือแสดงและขายของที่เก็บ หรือผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน

ประเภทของคลังสินค้าทัณฑ์บน

  1. คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บน
    1. คลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป
    2. คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว
    3. คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับอู่ซ่อมหรือสร้างเรือ
    4. คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับเก็บน้ำมัน
  2. คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อแสดงและขายของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน
    1. คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทร้านค้าปลอดอากร
    2. คลังสินค้าทัณฑ์บนสำหรับจัดแสดงหรือนิทรรศการ
    3. คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรบนเที่ยวบิน
  3. คลังสินค้าทัณฑ์บนเพื่อผลิต ผสม ประกอบ บรรจุ หรือดำเนินการด้วยวิธีอื่นใดกับของที่เก็บในคลังสินค้าทัณฑ์บน
    1. คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้า
    2. คลังเสบียงทัณฑ์บน

ระยะเวลาในการเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป

การเก็บของในคลังสินค้าทัณฑ์บน สามารถเก็บได้ไม่เกินสองปีนับแต่วันนำเข้า

เงื่อนไขการอนุญาตที่ผู้ขอใบอนุญาตต้องดำเนินการ

  1. สถานที่ที่ขอจัดตั้งต้องอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม ต้องมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร และภายในพื้นที่ดังกล่าวต้องมีอาคารเก็บของที่มั่นคงแข็งแรง และมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 ตารางเมตร หรือตามขนาดพื้นที่ที่อธิบดีเห็นสมควร ซึ่งพนักงานศุลกากรสามารถควบคุมได้โดยสะดวกและรัดกุม
  2. ต้องดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนแผนผังที่ได้ยื่นประกอบคำขอซึ่งกรมศุลกากรเห็นชอบ โดยมีรั้วล้อมรอบ ประตูเข้า – ออกที่มั่นคงแข็งแรง มีห้องทำงานสำหรับพนักงานศุลกากร ซึ่งภายในห้องทำงานต้องจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีระบบสื่อสารที่เชื่อมโยงคอมพิวเตอร์ดังกล่าวกับระบบคอมพิวเตอร์ของศุลกากร เพื่อให้พนักงานศุลกากรใช้ในการกำกับคลังสินค้าทัณฑ์บน และจัดทำป้ายคลังสินค้าทัณฑ์บนตามแบบที่กำหนดไว้
  3. มีระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์บุคคล หมายเลขทะเบียนยานพาหนะ หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ หรือของที่ผ่านเข้า – ออก และสามารถตรวจสอบข้อมูลภาพย้อนหลังได้ไม่น้อยกว่า 60 วัน พร้อมจัดหาเครื่องมือเครื่องใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการคลังสินค้าทัณฑ์บน รวมถึงกำกับดูแลคลังสินค้าทัณฑ์บนให้มีความรอบคอบรัดกุมตามความจำเป็นที่กรมศุลกากรกำหนด
  4. มีระบบควบคุมสินค้าคงคลังที่สามารถตรวจสอบการนำของเข้าเก็บ การนำของออก และของคงเหลือ โดยสามารถจัดทำรายงานทางบัญชีตามที่กรมศุลกากรกำหนด และพนักงานศุลกากรสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

เปรียบเทียบคลังสินค้าทัณฑ์บนกับเขตปลอดอากร

เขตสิทธิพิเศษทางภาษีอากรตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร มี 2 ประเภทดังนี้

  1. คลังสินค้าทัณฑ์บน กำหนดขึ้นเพื่อเป็นคลังสินค้าสำหรับเก็บสินค้านำเข้าโดยได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีอากรด้วย จึงมีความแตกต่างจากคลังสินค้าทั่วไปโดยสามารถเก็บสินค้านำเข้าได้นานกว่าและนำออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนได้ตามจำนวนที่ต้องการโดยไม่ต้องนำออกทั้งจำนวนที่นำเข้าและชำระภาษีอากรเฉพาะส่วนที่นำออกจากคลังสินค้าทัณฑ์บนนั้น หากมีความประสงค์หรือมีความจำเป็นต้องส่งกลับออกไปต่างประเทศจะได้รับสิทธิงดเว้นอากรขาเข้าและขาออกจึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้า นอกจากนี้ยังสามารถประกอบการในคลังสินค้าทัณฑ์บน ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและระเบียบปฏิบัติที่กรมศุลกากรกำหนด เช่น คลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทโรงผลิตสินค้าและคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไปสำหรับจัดแสดงสินค้าหรือนิทรรศการ (คสท.) เป็นต้น
  2. เขตปลอดอากร หมายถึง เขตพื้นที่ที่กำหนดไว้สำหรับการประกอบอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรมหรือกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การเศรษฐกิจของประเทศโดยของที่นำเข้าไปในเขตดังกล่าวจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ

ดังนั้นคลังสินค้าทัณฑ์บนจึงมีลักษณะเป็นคลังสินค้าเดี่ยวเพื่อรับฝากสินค้า หรือเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาผลิตร่วมกับวัตถุดิบภายในประเทศเพื่อผลิตเป็นสินค้าแล้วส่งออกไปต่างประเทศหรือเป็นคลังสินค้าทัณฑ์บนประเภทอื่นๆตามที่กฎหมายว่าด้วยศุลกากรและระเบียบปฏิบัติที่กรมศุลกากรกำหนด แต่หลายคนเข้าใจว่าเขตปลอดอากรเป็นเขตสิทธิพิเศษทางภาษีอากรประ เภทเดียวกับคลังสินค้าทัณฑ์บนแต่ได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าคลังสินค้าทัณฑ์บนและมีระบบควบคุมทางบัญชีเข้มงวดน้อยกว่าคลัง สินค้าทัณฑ์บน จึงสามารถอำนวยความสดวกในการโอนย้ายวัตถุดิบระหว่างโรงงานที่อยู่ในเขตปลอดอากรเดียวกัน แต่ตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากรและระเบียบปฏิบัติของกรมศุลกากร เขตปลอดอากรมีความแตกต่างที่สำคัญจากคลังสินค้าทัณฑ์บน ดังนี้

  1. การจัดตั้งเขตปลอดอากรถือเป็นโครงการพัฒนาที่ดินขนาดใหญ่ให้เป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรือการพณิชยกรรมเพื่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้ประ กอบการที่ต้องการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมหรือศูนย์บริการที่เกี่ยวข้องในเขตปลอดอา กรโดยผู้ขอจัดตั้งเขตปลอดอากรต้องจัดให้มีระบบสาธารณูปโภคเพื่อรักษาสภาพ แวดล้อมและสามารถอำนวยความสดวกกับผู้ที่จะเข้ามาประกอบการในเขตปลอดอากร ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงมีลักษณะอย่างเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมแต่มีข้อแตกต่างที่การขอจัดตั้งและการบริหารจัดการภายในนิคมอุตสาหกรรมต้องเป้นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและอยู่ในการกำกับควบคุมของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับเขตประกอบการอุตสาหกรรมหรือการพณิชยกรรมบางแห่งที่ตั้งก่อน อาจขออนุมัติจัดตั้งเป็นเขตปลอดอากรภายหลังเพื่อเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์โดยกำหนดให้เป็นเขตสิทธิพิเศษทางภาษีอากรต่อไป
  2. การขอจัดตั้งเขตปลอดอากรแบ่งออกได้เป็น 2 ขั้นตอนโดยขั้นตอนแรกผู้ขอจัดตั้งเขตปลอดอากรต้องยื่นขออนุมัติจัดตั้งเขตปลอดอากรต่อ ส่วนหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์ สำนักสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร กรมศุลกากร ภายหลังได้รับอนุมัติเป็นเขตปลอดอากรแล้ว ผู้ประสงค์จะประกอบกิจการในเขตปลอดอากรจะต้องยื่นคำขอเป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากรต่อกรมศุลกากรเช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีอากรของเขตปลอดอากรจึงมิใช่ผู้ขอจัดตั้งเขตปลอดอากรแต่เป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากรที่ได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากรแต่อาจรวมถึงผู้ขอจัดตั้งเขตปลอดอากรเอง หากได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ประกอบการในเขตปลอดอากรด้วย
  3. เขตปลอดอากร ต้องอยู่ในบังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย จึงมีฐานะเป็นชุมชนอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบการอุตสาหกรรมตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ ๒๕๓๕ นอกจากนี้ยังต้องอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ด้วย การดำเนินการก่อสร้างชุมชนอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบการอุตสาหกรรมมีค่า ใช้จ่ายสูงจึงต้องเป็นโครงการขนาดใหญ่เพื่อให้สามารถลดต้นทุนต่อหน่วยให้ต่ำลง ดังนั้นการตัดสินใจเลือกเขตสิทธิพิเศษทางภาษีอากรแบบใดจึงต้องพิจารณาความเหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะการประกอบการของตนเพื่อให้สามารถลดต้นทุนด้านภาษีอากรในการผลิตสินค้าหรือการให้บริการเป็นสำคัญ

สิทธิประโยชน์คลังสินค้าทัณฑ์บน

  1. การเลื่อนการชำระอากรและภาษี การเก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน ผู้นำเข้าสามารถเลื่อนการชำระอากรและภาษีออกไปได้จนกว่าสินค้าจะพร้อมขายหรือส่งออก สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงกระแสเงินสดและลดภาระทางการเงินของผู้นำเข้า
  2. การจัดการสินค้าคงคลัง : คลังสินค้าทัณฑ์บนสามารถจัดเตรียมสถานที่ส่วนกลางสำหรับจัดเก็บและจัดการสินค้าคงคลัง ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานและลดต้นทุนการขนส่ง
  3. ความยืดหยุ่นในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน : ผู้นำเข้าสามารถจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าทัณฑ์บนและตัดสินใจในภายหลังว่าจะขายในประเทศหรือส่งออก ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดและปัจจัยอื่นๆ
  4. ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรมและความเสียหาย : คลังสินค้าทัณฑ์บนเป็นสถานที่ที่มีความปลอดภัยสูง โดยมีการควบคุมการเข้าถึงและระบบเฝ้าระวังที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการโจรกรรมและความเสียหายต่อสินค้า
  5. พิธีการศุลกากรที่ง่ายขึ้น : ด้วยการใช้คลังสินค้าทัณฑ์บน ผู้นำเข้าสามารถลดความซับซ้อนของพิธีการศุลกากร และลดภาระการจัดการที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าและส่งออกสินค้า

 

#logistics #lynxgistics #import #export #freightforwarder #Bonded Warehouse #คลังสินค้าทัณฑ์บน

แหล่งที่มา : https://www.customs.go.th/

      https://www.itbslogistics.com/